เหตุการณ์สะเทือนใจลูกข่มขืนมารดาผู้ให้กำเนิด เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ร.ต.ต.รักษา ไชยนา รอง สวป.สภ.อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู สืบทราบมาว่า นายปัจจิม พาประโยชน์ อายุ 37 ปี ชาวบ้านหนองหัวช้าง ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนมารดาของตน ได้แอบเข้ามาที่บ้านในพื้นที่บ้านหนองหัวช้างหลังหลบหนีการจับกุมของตำรวจได้กว่า 1 ปี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2546

ทั้งนี้ หลังตำรวจทราบข่าวจึงได้นำหมายจับที่ 315/2546 ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ลงวันที่ 12 พ.ค. 2546 เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวพบ นายปัจจิมอยู่ในบ้านจึงแสดงหมายจับก่อนควบคุมตัวส่ง พ.ต.ต.สมนึก เหล่าจันดา สารวัตรเวร เพื่อดำเนินคดีในข้อข่มขืนกระทำชำเรา

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2546 เวลาประมาณ 05.00 น. โดยนางลี (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ได้เข้าแจ้งพนักงานสอบสวนว่า ถูกนายปัจจิม ลูกชายข่มขืน ซึ่งผลการชันสูตรบาดแผลจากแพทย์ระบุว่า ถูกข่มขืนจริง

จากการสอบปากคำนางลี ได้ระบุว่า มีลูกชาย 4 คน ส่วนสามีตายไปนานแล้ว ส่วนนายปัจจิมเป็นลูกชายคนโตยังไม่มีครอบครัว โดยในวันเกิดเหตุมีฝนตกจึงเดินทางไปนอนค้างที่บ้านลูกชายคนเล็กซึ่งอยู่บ้านคนเดียว จนกระทั่งรุ่งเช้าลูกชายคนเล็กได้ออกไปจับกบที่ทุ่งนา

หลังจากลูกชายคนเล็กออกจากบ้านไปแล้ว นายปัจจิม ได้เดินทางมาที่บ้าน และได้ถามหาแบตเตอรี่ไฟ โดยบอกว่าจะนำไปใช้ส่องไฟเพื่อจับกบ ทั้งนี้ นางลีได้ตอบกลับว่า ลูกชายคนเล็กเอาไปใช้แล้ว แต่ปรากฏว่า นายปัจจิมได้เข้ามากอดรัดและใช้มืออุดปาก จากนั้นจึงได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ก่อนที่จะหลบหนีไป

ร.ต.ต.รักษา เปิดเผยว่า ขณะเข้าจับกุม นายปัจจิมมีท่าทีตกใจและพยายามวิ่งหนี เนื่องจากรู้ตัวว่าต้องคดีอยู่ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับกุม นายปัจจิมให้การว่า ไม่ได้ข่มขืนนางลีแต่อย่างใด

"นายปัจจิมบอกว่า เมื่อหนีออกจากบ้านก็ออกไปทำงานถีบสามล้อที่ จ.อุดรธานี และเพิ่งจะกลับมาบ้าน เนื่องจากทราบข่าวว่าแม่ของเขาเสียชีวิต แต่คดีนี้แม้เจ้าทุกข์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่คดียังไม่สิ้นสุด เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อผู้ต้องหาตายเท่านั้น" ร.ต.ต.รักษา กล่าว

พ.ต.ต.สมนึก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัวนายปัจจิมไว้ที่ห้องควบคุมที่ สภ.อ.นาวัง แต่ยังไม่ได้สอบสวนอะไร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอด และบอกว่า ไม่ได้ข่มขืนแม่ แต่พยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่สามารถยืนยันได้ว่า นายปัจจิมเป็นคนข่มขืนแม่ของตนเอง

"ในวันเกิดเหตุเมื่อปีที่แล้ว ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพานางลีไปตรวจร่างกายและพบร่องรอยการถูกข่มขืนจริง ส่วนนายปัจจิมก็มีนิสัยชอบสำมะเลเทเมา ไม่ทำมาหากิน ชอบดมกาว และกินยาบ้า และคาดว่าในวันเกิดเหตุ อาจจะเมากาวจนหน้ามืด เห็นแม่จึงเข้าไปข่มขืน ทั้งที่นางลีเองร้องบอกว่า กูเป็นแม่นะ แต่นายปัจจิมก็ไม่ฟังเสียง" พ.ต.ต.สมนึก กล่าว

ส่วนความคืบหน้าคดี ด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 3 ขวบ ถูกนายภารันดร แสนทวีสุข ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 140 ต.แก่งโดม กิ่ง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี พ่อเลี้ยงข่มขืนกระทำชำเรามาเป็นเวลานานนับปี พร้อมกับทำร้ายร่างกายจนตาพิการ โดย น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี แม่ของเด็กเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.อ.หาดใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดี

ล่าสุดเมื่อตำรวจ สภ.อ.หาดใหญ่ สามารถจับกุมนายภารันดรขณะเดินทางมาตามหา น.ส.สวย ที่ สภ.อ.หาดใหญ่ เนื่องจากคิดว่า น.ส.สวย และ ด.ญ.เอ จะอยู่ในสถานที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากสอบสวนเบื้องต้น นายภารันดรได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่เมื่อตำรวจสอบเค้นจึงยอมรับสารภาพว่า ลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ จริง โดยกระทำมาแล้ว 3 ครั้ง และลงมือก่อเหตุที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ภายในซอย 30 ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่

ทั้งนี้ นายภารันดรอ้างว่า สาเหตุที่ลงมือข่มขืน ด.ญ.เอ เพราะเมาเหล้าและเกิดอารมณ์ทางเพศ เมื่อกลับมาถึงบ้านพักพบว่า น.ส.สวย ภรรยาเมาเหล้าหลับ จึงได้ข่มขืน ด.ญ.เอ ลูกเลี้ยง

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.อ.หาดใหญ่ ได้ควบคุมตัวนายภารันดรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านเช่าหลังเกิดเหตุ ท่ามกลางการป้องกันของเจ้าหน้าที่อย่างแน่นหนา เนื่องจากกลัวว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ หลังจากทำแผนเสร็จได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีที่ สภ.อ.หาดใหญ่ ตามกฎหมายต่อไป