การล้างพระอย่างถูกวิธี
เอกขเนก เรียบเรียง
ทำไมจึงต้องล้างพระ
วัตถุประสงค์หลักของการล้างพระก็เพื่อเป็นการชำระล้างคราบสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น สนิม ไคล ออกจากองค์พระเสมือนทำความสะอาดวัตถุสิ่งอื่นๆ โดยทั่วไปจะทำให้พระนั้นดูดียิ่งขึ้น และเป็นการช่วยดูแลรักษาพระให้อยู่คงถาวรในสภาพเดิมต่อไปได้อีกนานดังคำโบราณที่กล่าวไว้ “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” ถ้าอยากให้พระดูดีมีราคาก็ต้องล้างอย่างถูกวิธี
เตรียมความรู้ก่อนล้างพระ
การเตรียมความรู้ก่อนการล้างพระมีความสำคัญอย่างยิ่งในขั้นตอนของการล้างพระ เพราะการที่เรารู้ว่าพระของเราเป็นพระพิมพ์ใดและทำมาจากวัสดุอะไร จะช่วยลดอัตราการเสี่ยงและความเสียหายจากการล้างพระ ดังคำกล่าวที่ว่า “รู้เขารู้เราร้อยรบมิพ่าย” การเตรียมความรู้ก่อนการล้างพระมีหลักในการพิจารณาดังนี้.-
1. ประเภทของพระ
ต้องสามารถระบุได้ว่าพระสร้างจากวัตถุดิบอะไร ส่วนผสมมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการ และการเลือกใช้สารละลายในการล้างที่แตกต่างกัน
2. อายุความเก่าของพระ
ต้องสามารถระบุอายุความเก่าของพระได้ เพื่อที่จะวินิฉัยว่าสมควรที่จะล้างพระองค์นั้นๆหรือไม่
3. ที่มาของพระ
ต้องทราบเกี่ยวกับสถานที่ๆพระถูกเก็บรักษา เช่นพระที่ถูกแช่น้ำมานานจนเกิดคราบกรุจับหนา หรือพระที่อยู่ในบริเวณที่แห้งแล้งได้รับความร้อนสูงอยู่เป็นเวลานาน
4. การถูกค้นพบ
พระที่ขึ้นจากรุใหม่ๆกับพระที่ขึ้นจากรุนานแล้ว ย่อมมีวิธีปฏิบัติต่างกัน พระที่ขึ้นจากรุใหม่ๆต้องค่อยๆปล่อยให้กระทบกับอากาศภายนอกสักระยะหนึ่งก่อน จึงค่อยนำมาล้าง
5. การรู้ถึงรูปพรรณสัณฐานของพระ
เครื่องมือและอุปกรณ์ในการล้างพระ
เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการล้างพระมีดังนี้
1. ภาชนะที่ใช้บรรจุน้ำและน้ำยาต่างๆ
ภาชนะที่ใช้ควรจะเป็นถ้วยขนาดเล็กและวัสดุที่เหมาะสมได้แก่กระเบื้องเคลือบสีขาว เพราะทนกรดและความร้อนได้ดี จำนวนที่ใช้ 3 ใบ เพื่อใช้บรรจุ น้ำสะอาด น้ำยาเคมี และน้ำร้อน
2. ไม้เนื้ออ่อนที่ปลายแหลม
ได้แก่ไม้จิ้มฟันหรือไม้จิ้มผลไม้ ก่อนใช้ควรนำไม้มาแช่น้ำสักพักหนึ่งเพื่อให้ไม้อ่อนตัวไม่สร้างความเสียหายแก่พระได้
3. พู่กัน หรือแปรงสีฟันชนิดขนอ่อน
ควรมีหลายๆขนาด ก่อนใช้งานต้องแช่น้ำอุ่นและทำความสะอาดหลังใช้งานเสร็จสิ้นแล้วทุกครั้ง
4. สำลี หรือคอตตอลบัท
ใช้เพื่อซับพระให้แห้ง หรือจุ่มน้ำยาสำหรับล้างพระเฉพาะที่ๆมีความสกปรกมากๆ
5. ผ้าสะอาด
ใช้สำหรับซับความชื้นออกจากองค์พระ และช่วยจับพระหรือใช้รองขณะทำความสะอาด เพื่อป้องกันการกระแทก ควรเป็นผ้าเนื้อนิ่มสีขาว
6. โคมไฟฟ้า
เพื่อช่วยให้มีแสงสว่างเพียงพอ และใช้ความร้อนจากแสงไฟโคมส่องเป็นการอังพระซึ่งจะช่วยให้พระแห้งเร็วกว่าปกติ
7. แว่นขยายหรือกล้องส่องพระ
ควรใช้แว่นขยายาขนาดใหญ่เพื่อใช้ดูสิ่งสกปรกหรือรายละเอียดต่างๆขององค์พระได้ชัดเจน
8. ไดร์เป่าผม
ใช้ในการทำให้พระแห้งเร็วขึ้น
9. กล่องบรรจุพระ
สำหรับใส่พระที่ล้างและแห้งแล้ว
สารละลายและน้ำยาเคมีที่ใช้ในการล้างพระ
น้ำยาที่ใช้ในการล้างพระมีดังนี้
1. น้ำฝน-ไฮโดเยนอ๊อกไซด์ มีคุณสมบัติเป็นกลาง
2. โซดาไฟ-โซเดียมไฮดรอกไซด์ มีคุณสมบัติเป็นด่าง
3. ไซยาไนต์-ไซยาไนต์ มีคุณสมบัติเป็นกรด
4. น้ำยาขัดห้องน้ำ-กรดไฮโดคลอริค มีคุณสมบัติเป็นกรด
5. คลอโรฟอร์ม-โซเดียมไฮโปรคลอไรด์ มีคุณสมบัติเป็นด่าง
6. น้ำมันไฟแช็ค-กีโรซีน มีคุณสมบัติเป็นกลาง
7. น้ำยาล้างโลหะ-แอซีโตน มีคุณสมบัติเป็นกลาง
8. บัซโซ-ไขพาราฟิน มีคุณสมบัติเป็นกลาง
9. ผงชูรส-โมโนโซเดียมกลูตาเมท มีคุณสมบัติเป็นด่าง
10. เครื่องดื่มบำรุงกำลัง-น้ำตาลซูโคส มีคุณสมบัติเป็นกลาง
11. น้ำมะขามเปียก-กรดอะซีติค มีคุณสมบัติเป็นกรด
12. ขี้เถ้า-โปตัสเซียมอ๊อกไซด์ มีคุณสมบัติเป็นด่าง
13. ยาสีฟัน-โซเดียมโมโนฟลูออโรฟอสเฟต มีคุณสมบัติเป็นกลาง
14. น้ำมะนาว-กรดซีติค มีคุณสมบัติเป็นกรด
15. สารส้ม-มีคุณสมบัติเป็นด่าง
การล้างพระเนื้อชิน
พระเนื้อชินเป็นพระที่ทำด้วยโลหะสามารถแยกออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆดังนี้
-
พระชินเงิน เป็นพระที่มีองค์ประกอบของแร่ดีบุก เงิน และปรอท ลักษณะของสนิมต่างๆที่เกิดขึ้นได้แก่
-
สนิมตีนกา-มีลักษณะเป็นจุดดำ บางทีเห็นเป็นผื่นขึ้นเป็นหย่อมๆบริเวณองค์พระ
-
สนิมขุม/สนิมระเบิด-มีลักษณะเป็นรอยขึ้นมาจากภายในตามซอกพระ
-
พระชินตะกั่ว เป็นพระที่มีองค์ประกอบหลักลักษณะของสนิมต่างๆที่เกิดขึ้นได้แก่
-
สนิมใจ-มีลักษณะเป็นคราบใจขุ่นจับอยู่พื้นผิวเป็นสนิมที่เกิดขึ้นในเนื้อ
-
สนิมแดง-เป็นสนิมที่เกิดขึ้นในเนื้อพระมีหลายลักษณะทั่งแดงมากแดกน้อยแตกต่างกันไปในพระแต่ละกรุ
-
พระชินเขียว เป็นพระที่มีองค์ประกอบของทองเหลืองทองแดงลักษณะของสนิมต่างๆที่เกิดขึ้นได้แก่
-
สนิมเขียว-เป็นสนิมที่เกิดขึ้นภายในเนื้อองค์พระเป็นสีเขียวแล้วยังประกฎคราบไปปกครุมอยู่ตอนบนอีกด้วยไขชนิดนี้มีลักษณะเหมือนเม็ดแมงลักละลายน้ำคล้ายกับไข่แมงดา
การล้างพระเนื้อชินเงิน
พระที่มีความสกปรกน้อย มีกรรมวิธีในการล้างโดยใช้น้ำผงวักฟอกอ่อนๆ แล้วใช้ผู้กันปัดเบาๆไปตามบริเวณที่สกปรกจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด นำพระมาผึ่งลมหรือเป่าด้วยไดเป่าผมให้แห้ง ถ้าพระมีความสกปรกมากให้นำไซยาไนซ์ผสมอ่อนๆใช้พู่กันปัดทำความสะอาด จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด เป่าด้วยเป่าผมให้แห้ง นำปัดโซน้ำใส่ภาชนะแล้วใช้พู่กันจุ่มปัดโซขัดองค์พระให้สะอาดจากนั้นนำพระใส่ถุงพลาสติกปิดปากถุงให้แน่น นำไปแช่ตู้เย็นที่อุณหภูมิธรรมดาโดยทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์จึงนำพระออกมา
การล้างพระเนื้อชินตะกั่ว และเนื้อพระชินเขียว
กรรมวิธีในการล้างพระเนื้อชินตะกั่ว ใช้น้ำยาวิ๊คซอลผสมน้ำใส่แปรงสีฟันชนิดขนนุ่ม จุ่มน้ำยาขัดเบาๆตามพื้นที่ต้องการล้างหลังจากนั้นไห้ขัดโซน้ำขัดซ้ำอีกรอบ จนได้สภาพที่ต้องการนำมาล้างด้วยแชมพูอ่อนๆและน้ำสะอาดอีกครั่ง
การล้างพระเนื้อดิน
ก่อนที่จะทำการล้างพระจะต้องแยกครอบกรุออกจากองค์พระเสียก่อนวิธีการแยกคราบกรุออกจากเนื้อพระมีอยู่ 2 วิธีคือ
-
การแช่น้ำ คราบกรุนำพระแช่น้ำโดยไม่ต้องกลัวว่าพระจะละลายน้ำ เพราะที่มีอายุเก่าจะมีความคงทนต่อน้ำและความเปียกชื้น
2. การใช้น้ำมัน น้ำมันในที่นี้หมายถึงน้ำมันแต่งผม หรือโลชั่นทาผิวยี่ห้อต่างๆ นำพระมาชโลมด้วยน้ำมัน โดยใช้พู่กันจุ่มน้ำมันทาให้ทั่วองค์พระ และผึ่งพระได้ประมาณ 10 – 20 นาที เพื่อให้เกิดการซึมซับเข้าไปทั่วองค์พระ จากนั้นจึงใช้ไม้จิ้มฟันเขี่ย คราบขี้กรุออกควรใช้ผ้าสะอาดๆ หรือผ้าสำลีที่ค่อนข้างนิ่มเช็ดฝุ่นผงที่เขี่ยออกไว้ซับออกมาหากยังไม่สะอาดพอตามที่ต้องการ ให้นำพระมาจุ่มน้ำแล้วค่อยๆเขี่ยคราบขี้กรุอีกทีหนึ่งทำเช่นนี้เลื่อยๆ จนกว่าจะได้ผลเป็นที่น่าพอใจตามความต้องการ
คราบราดำ
วิธีจำกัดคราบราดำโดยใช้พู่กันจุ่มน้ำยาล้างห้องน้ำ (อัตราส่วน น้ำยา 1 ส่วน : น้ำ 3 ส่วน ) ป้ายทาลงที่บริเวณดำนั้น แล้วทิ้งไว้สักครู่ต่อมาจึงใช้พู่กันอันใหญ่จุ่มน้ำเช็ดออกทันที และใช้กระชำระซับให้แห้งทำเช่นนี้หลายครั้งจนเป็นที่พอใจ จากนั้นจึงทำพระออกมาผึ่งให้แห้ง แล้วชโลมด้วยโลชั่นทาผิว หรือน้ำมันใส่ผมเป็นการช่วยสมานผิวพระให้กับสภาพเดิม
คราบสกปรกที่เกิดจากสีผึ้งและเทียน
วิธีล้างทำความสะอาด กระทำโดยนำพระใสภาชนะที่ทนความร้อน และรินน้ำร้อนลงไป เมื่อเทียนหรือสีผึ้งซึ่งไปกระทบกัน น้ำร้อนก็จะละลาย และถูกน้ำดันลอยตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ จากนั้นจึงเทน้ำออกแล้วรินน้ำร้อนลงไปใหม่ ทำเช่นนี้หลาย ๆ ครั้ง จนเทียนและสีผึ้งที่ติดอยู่กับองค์พระออกหมดแล้วจากนั้นก็นำไปผึงให้แห้งต่อไป
คราบสกปรกที่เกิดจากน้ำมัน
วิธีล้าง คราบน้ามันกระทำโดยนำภาชนะขนาดเล็กๆ ให้พอเหมาะกับองค์พระ แล้วจึงเทน้ำมันไฟแช็คลงไปกะให้ท่วมองค์พระ จากนั้นจึงนพระที่จะล้างลงไปแช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ5-10นาทีหลังจากนั้นใช้พู่กันปัดทำความสะอาดให้ทั่วองค์พระ ควรทำเช่นนี้อีกครั่งหนึ่งจนกว่าจะเป็นที่พอใจแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห่งเมื่อพระแห้งแล้วจึงจะสมานผิวด้วยโลชั่นหรือน้ำมันใส่พระ ก็จะเป็นการ
คราบรัก
วิธีการล้างคราบรักกระทำโดย เทน้ำยาล้างสีลงในภาชนะที่จัดหาเอาไว้แล้วจึงเอาพระที่ต้องการล้างใส่ลงไปพู่กันช่วยเขี่ยเปิดรักออก
คราบไคล ขี้ฝุ่น
กรรมวิธีการล้างทำความสะอาดคราบไคลคือ นำเอาแชมพูผสมกับน้ำ แล้วใช้คอทตอลบัตถูบริเวณที่สกปรกออก จะให้ดีก็ใช้น้ำร้อนผสมแชมพูแล้วนำพระมาแช่จากนั้นจึงถูเบาๆบริเวณที่สกปรกเสร็จแล้วนำพระไปล้างน้ำสะอาดอีกครั่งและซับพระให้แห้งด้วยผ้าสำลีนุ่มๆแล้วผึ่งให้แห้ง
การล้างเหรียญ
การล้างเหรียญทองคำและเงิน
กรรมวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดก็โดยใช้ครีมทำความสะอาดโลหะ (แนะนำให้ใช้ยี่ห้อแอมเวย์) ผสมน้ำในอัตราส่วนครีม 1ช้อนชาต่อน้ำ1/2แก้ว คนให้ละลายเข้ากัน นำเหรียญที่ต้องการล้างมาแช่ไว้สัก 10 นาทีแล้วใช้ผ้าสะอาดเนื้อนุ่มเช็ดให้ทั่วเหรียญจากนั้นนำเหรียญขึ้นมา ใช้ผ้านุ่มเช็ดให้สะอาดอีกครั่ง
การล้างเหรียญทองแดง โลลหะเหรียญลงยาและเหรียญที่มีกะไหล่
กรรมวิธีการล้างโดยการใช้โซดาไฟ 1/4ช้อนชา ผสมน้ำ ½ แก้ว คนให้เข้ากันนำเหรียญที่ต้องการล้างลงไปแช่ได้สัก 10 นาที จากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนนุ่ม หากเห็นว่าคราบยังไม สะอาดให้นำเหรียญนั้นแช่ดาไฟอีกครั่งประมาณ 5-10 นาทีนำขึ้นมาล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าขนนุ่ม
การล้างพระเนื้อผง
การล้างคราบไคล น้ำมัน ฝุ่นละออง มูลแมลง สีผึ่ง และเทียนต่างๆ
กรรมวิธีในการล้าง โดยการนำพระมาแช่ในน้ำร้อนหรือน้ำเดือด แล้วใช้แปรงขนอ่อนขัดทำความสะอาดให้ทั่วองค์พระ จากนั้นจึงผึ่งพระให้แห้งก่อนเก็บรักษา
การล้างคราบน้ำหมาก
กรรมวิธีในการล้างโดยการใช้โซดาไฟผสมน้ำเจือจาง แล้วนำพระลงแช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ใช้พู่กันหรือแปรงขนอ่อนปัดทำความสะอาดให้ทั่วๆแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั่ง จากนั้นจึงผึ่งพระให้แห้
การล้างคราบรัก
กรรมวิธีในการล้าง โดยนำพระลงแช่ในน้ำเพื่อให้เนื้อชุ่มน้ำหรือจมน้ำให้ทั่ว แล้วจึงเอาน้ำยาล้างสังกะสีทาให้ทั่วองค์พระทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำร้อนจัด
การล้างพระเนื้อว่าน
การล้างพระเนื้อว่าน โดยการใช้น้ำอุ่นจัดๆ ใช้คอทตอลบัตหรือสำลีพันปลายไม่ชุบน้ำอุ่น เช็คคราบสกปรกจนสะอาดเป็นที่พอใจปล่อยแล้วทิ้งไว้ให้แห่ง หรือใช้น้ำมันไฟแช็ค ใช้คอทตอลบัต หรือสำลีพันปลายไม้ ชุบน้ำมันไฟแช็คแล้วถูไปบนคราบสกปรกที่ไม่พึงปรารถนา เมื่อเช็ดตรงจุดใดต้องเป่าลมลงไปทันที ทั้งนี้เพื่อให้น้ำมันระเหยแห้งเร็วขึ้น
การล้างพระกริ่งและรูปหล่อ
คราบสกปรกที่ปกคลุมพระกริ่งและพระรูปหล่อนั้น ได้แก่ คราบไขมัน คราบฝุ่นละออง คราบสนิม (สนิมของพระประเภทนี้จะเป็นสีเขียว เพราะสร้างจากโลหะที่เป็นทองเหลือง หรือทองแดง)
กรณีการล้างพระกริ่ง หรือพระรูปหล่อมีดังนี้
1. ผงชูรส
นำผงชูรสครึ่งช้อนชา ผสมกับน้ำอุ่นประมาณ 1 ถ้วยตะไลเล็กๆนำพระที่จะล้างแช่ทิ้งไว้ 10 นาทีหลังจากนั้นนำมาล้างกับน้ำสะอาดแล้ผึ่งให้แห้ง
2. เครื่องดื่มบำรุงกำลัง
เครื่องดื่มชูกำลังใส่ถ้วยนำพระลงไปแช่ แล้วใช้แปรงขนอ่อน ขัดถูเบาๆ และล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
3. ผงซักฟอก
นำผงซักฟอก 1 ช้อนชาผสมกับน้ำเดือด 1 แก้ว นำพระลงไปแช่ 5 -10 นาทีถูด้วยแปรงขนอ่อน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด และผึ่งให้แห้ง
4. แอลกอฮอล์
นำสำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลเช็ดเบาๆบนองค์พระบริเวณทีสกปรกจนสะอาดเป็นที่พอใจ
5. โซดาไฟ
นำโซดาไฟ 1 ส่วน 4 ช้อนชา ผสมน้ำครึ่งแก้ว คนให้เข้ากัน นำพระที่ต้องการล้างลงแช่ ใช้แปรงขนอ่อนถูเบาๆแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดและผึ่งให้แห้ง
การล้างพระบูชา
นำโซดาไป 1 ส่วน 4 ช้อนชาผสมน้ำ 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน ใช้สำลีชุบให้ชุ่มจากนั้นนำมาแปะได้ตรงบริเวณที่ต้องการล้าง ทิ้งไว้ 5-10 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด และผึ่งให้แห้ง หลังจากนั้นชโลมด้วยน้ำมันจักร ทาให้ทั่วองค์พระ
หนังสืออ้างอิง
คเณศ์พร . การล้างพระอย่างถูกวิธี (5-60 : 2552) . B.K. อินเตอร์พริ๊นท์ . กรุงเทพมหานคร
|