...กำเนิดพระเครื่อง...ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงเป็นพระที่ทรงคุณวิเศษศิษย์ของสมเด็จพระวันรัตแดง ท่านมีความชำนาญจนอาจกล่าวได้ว่าสำเร็จ ผงอิทธิเจ ซึ่งเกิดจากการนำเอาผงดินสอพองผสมกับวัตถุอาถรรพณ์นานาชนิดมาเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน ส่วนใหญ่เขียนเป็นหัวใจคาถาและปลุกเสกไปพร้อมกันด้วย เมื่อลบผงดังกล่าวออกมาแล้วจึงจะเรียกว่าผงวิเศษ ที่แยกออกได้เป็น อิทธิเจ ปัถมัง มหาราช พุทธคุณ และตรีนิสิงเห ผงอิทธิเจนั้น ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงมีความชำนาญมาก มีอานุภาพทางเมตตามหานิยม ท่านเขียนลงผงอิทธิเจเพื่อนำมาพิมพ์พระภายในกุฏิคณะ6 วัดสุทัศน์ฯ พระศรีสัจจญามุนี(สนธิ์) ผู้อาวุโสน้อยกว่าพระครูใบฎีกาเกลี้ยง นอกจากจะมีความชำนาญด้านพระเนื้อโลหะ หมายถึงพระเครื่องคือพระกริ่งพระชัยวัฒน์และพระบูชาแล้ว ท่านยังมีความชำนาญทำผงวิเศษ คือ ผงปัถมังซึ่งมีอานุภาพทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี จังงังและล่องหนหายตัวได้่อย่างน่าอัศจรรย์ และท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการทำผงมหาราชที่มีอานุภาพทางด้านเสน่ห์มหานิผมอีกด้วย นอกจากผงวิเศษทั้งอิทธิเจ มหาราชและปัถมังที่มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์และคงกระพันชาตรีแล้วยังได้มีการรวบรวมผงตะใบพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ อีกด้วย..........
...เรียกว่าเป็นของดีสามอาจารย์รวมอยู่ในพระเครื่ององค์จ้อยทีเดียว อีกทั้งยังได้รวบรวมพระหักจากวัดระฆังและวัดสามปลื้มอีกด้วย พระครูใบฎีกาเกลี้ยงจึงคิดพิมพ์พระผงและพระเนื้อดินทั้งแกะแม่พิมพ์เองและทั้งถอดพิมพ์พระเครื่องอื่นๆที่ใกล้ตัว ทำพระทุกวันภายในกุฏิคณะ6 ดังคำที่ท่านปรารภว่า ***เราเป็นภิกษุ ปั้นพระวันละ 5 องค์ 10 องค์สืบพระศาสนา***พิมพพระไปปลุกเสกไป ทำเช่นนี้ทุกวันไม่มีผู้ช่วยนอกจากพระอาจารย์หนู(นิรันดร์ แดงวิจิตร)เมื่อบวชเป็นพระท่านเล่าว่าได้มีโอกาสช่วยท่านพระครูเกลี้ยงตำผงและพิมพ์พระ และว่าพระพิมพ์ส่วนใหญ่ของท่านพระครูเกลี้ยงจะหย่อนด้านความงามเพราะเน้นเฉพาะคุณภาพ ส่วนพระพิมพ์ที่ออกมาสวยงามนั้น ส่วนใหญ่เป็นฝีเมือกดพิมพ์ของพระอาจารย์หนูทั้งสิ้น ปีที่สร้างพระเครื่องทั้งเนื้อผงและเนื้อดินของท่านอยู่ในระหว่าง ปี พ.ศ.2476-2484 ในแต่ละครั้งที่วัดสุทัศนเทพวรารามจัดพิธีสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ของสมเด็จพระสังฆราชแพพระเครื่องเหล่านี้จะนำมาเข้าพิธีทุกครั้งไป จำนวนการสร้างรวมกันแล้วมีมากถึง84000องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ พระส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์กลีบบัวเนื้อผงสีขาว ที่เนื้อผงสีเขียวมีจำนวนน้อย เกิดจากปฏิกิริยาของผงตะใบพระกริ่งที่ผสมอยู่ในเนื้อพระเป็นจำนวนมากทำให้เกิดสนิมเขียวเป็นจุดเป็นจ้ำ ประปราย ที่มีมากก็จะปรากฎให้สีของพระเขียวทั้งองค์ก็มีปรากฎ ส่วนใหญ่เป็นพระพิมพ์กลีบบัว นางกวัก และพระสังกัจจายน์......
...พระครูใบฎีกาเกลี้ยง เป็นพระอาจารย์ขลังความสามารถทางด้านแพทย์แผนโบราณ เรื่องการสูญฝีแล้วได้ผลชงัดนัก นอกจากนี้ยังมีความจัดเจนทางด้านขับภูตพราย ผีร้ายที่มาแทรกแซงเบียดเบียนชีวิตของผู้สุจริต ผู้ที่ถูกคุณไสยต่างมาพึ่งพาท่านและได้รับการสงเคราะห์อย่างดี พระครูใบฎีกาเกลี้ยงเป็นอาจารย์ที่แก่กล้าสามาถรทางด้านพระเวทย์วิทยาคม เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงชีวิตของท่านผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหลายท่านเช่นพระราชวิสุทธาจารย์(แปะ)อดีดพระเรขารับใช้ใกล้ชิดของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้ข้อสังเกตว่าไม่เคยเห็นพระครูใบฎีกาเกลี้ยงอาบน้ำแม้แต่ครั้งเดียว ข้าวของภายในกุฏิจัดอย่างเป็นระเบียบ หาได้มีกลิ่นอับ เหม็นแม้แต่น้อย ทั้งเนื้อตัวของท่านก็ไม่มีกลิ่นที่น่ารังเกียจแต่ประการใด.....
...มาถึงปี พ.ศ. 2485 พระครูใบฎีกาเกลี้ยง อำลาวัดสุทัศน์ฯเนื่องจากดวงประทีปอธิษฐานของท่านแตก หากไม่ย้ายถิ่นที่อยู่จะมีอันตรายถึงแก่ชีวิต จึงย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดอรุณได้ไม่นานจึงเดินทางไปจำพรรษาที่วัดยวด ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านเกิดของท่าน พระเครื่ององค์น้อยที่ท่านสร้างไว้ได้ถูกลำเลียงไปไว้ที่วัดยวดพร้อมตัวท่านด้วยจำนวนประมาณ 3 อ่างมังกร แจกให้แก่ชาวบ้านไปเรื่อย ใครมาขอก็ให้เปล่าไม่ได้ตั้งราคาแต่อย่างใด พระครูใบฎีกาเกลี้ยงมรณภาพที่วัดยวด เมื่อปี พ.ศ. 2488....ข้อมูลจากหนังสือพระเครื่องนะโม ฉบับที่121 วางแผงเมื่อ 25 ก.พ.2530 ขอบคุณครับ.....
***พระปลัดเกลี้ยงแคล้วคลาดสูง***นางสาวอรพิน ปทุมกุล ปัจจุบันพักอยู่ที่บ้านค่าว ต.โอโล อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า เมื่อก่อนนี้เธอได้เข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯโดยเป็นลูกจ้างร้านค้าแก๊สหุงต้ม ซึ่งเธอก็ประหลาดใจว่า เพื่อนที่ทำงานด้วยกันหลายคนมีบาดแผลปรากฏตามเท้า บางคนถึงกับพิการนิ้วขาดหายไปบางนิ้ว สอบถามได้ความว่าได้รับอุบัติเหตุถังแก๊สตกใส่เท้า แต่เธอกลับไม่ได้รับอุบัติเหตุดังกล่าวแม้แต่ครั้งเดียวทั้งที่ถังแก๊สเคยตกใส่เธอ แต่ไม่เคยถูกเท้าสักครั้ง จึงมั่นใจว่าพระหลวงพ่อเกลี้ยงพิมพ์กลีบบัวที่เธอเลี่ยมพลาสติกอย่างมิดชิดคล้องคออยู่เพียงองค์เดียวนั้นปกป้องคุ้มครองเธอตลอดเวลา เมื่อหลายเดีอนที่ผ่านมานี้เธอได้เขียนจดหมายถึงผู้เขียนเล่าว่า เธอรอดตายจากอุบัติเหตุสยองเพราะพระหลวงพ่อเกลี้ยง เรื่องราวในจดหมายเล่าว่าเธอได้ย้ายกลับถิ่นเดิม อาศัยยังชีพด้วยการขายอาหารประเภทข้าวเหนียว ส้มตำ ลาบฯลฯ ด้วยการเข็นรถขายไปตามสถานที่ต่างๆการค้าของเธอดีขึ้นมาเรื่อยๆมีผู้มาอุดหนุนมากทำให้พอที่จะมีเงินทองใช้สอยบ้าง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเธอ วันนั้นเวลาประมาณบ่ายสองโมงปกติเธอจะต้องยืนอยู่ที่รถเข็นคู่ชีพทุกเวลาไม่ว่างเว้น โดยมีน้องสาวอีกคนหนึ่งคอยช่วยส่งอาหารให้กับลูกค้า แม้จะไม่มีลูกค้าเธอก็ไม่เคยได้ละทิ้งรถไปไหนจนเป็นปกติวิสัย แต่วันนั้น ในนาทีนั้นเอง เธอรู้สึกร้อนรุ่มใจยิ่งนัก ไม่ทราบว่ามีอะไรมาบังคับให้เดินออกจากรถเข็นนั้น ช่วงระยะเวลาที่เธอเดินออกมาพ้นรถเข็นประมาณไม่ถึงสี่เมตร รถเก๋งคันหนึ่งไม่ทราบว่าวิ่งมาอย่างไรเสียหลักและพุ่งเข้าชนรถเข็นของเธอเต็มแรง ข้าวของทุกอย่างแตกหักเสียหายกระจัดกระจายจนแทบจะหาชิ้นดีไม่ได้ ส่วนตัวของเธอรอดพ้นเหตุการณ์นั้นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ และไม่อยากคิดว่าหากเธอไม่เดินออกมาจากรถเข็นนั้นเธอจะเป็นเช่นไร ท่านผู้อ่านครับ นางสาวอรพินเขียนจดหมายถึงผู้เขียนเนื่องจากเธอได้เคยพักอาศัยช่วยเหลือทำงานที่บ้านของผู้เขียนมาก่อนจึงได้รับพระพิมพ์กลีบบัวของหลวงพ่อเกลี้ยงจากผู้เขียนเป็นรางวัลแห่งความดีของเธอที่มีความขยันเอาใจใส่ต่อหน้าที่อย่างดี เมื่อได้พบเหตุการณ์เช่นนี้จึงเขียนเล่าให้ผู้เขียนทราบ ผู้เขียนจึงได้นำเรื่องราวนี้ถ่ายทอดแก่ท่านผู้อ่านดังปรากฏใน นิตยสาร นะโม ฉบับนี้ (เป็นเรื่องเล่าของคุณกำฑร พานิชยิ่ง ผู้เขียนเรื่องครับ ซึ่งหนังสือนะโมเล่มนี้วางแผงเมื่อ 15 ม.ค. 2528 )
~~~~~องค์นี้เป็นเนื้อดินเผา สวยงามมาก เป็นของคุณต๋อยเซมเบ้ ผมมีแต่ภาพด้านหน้าครับ~~~~~
พระกลีบบัว ของท่านพระครูใบฏีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์.
พระผงพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฏีกาเกลี้ยง องค์จิ๋วขนาดปลายนิ้วก้อย ที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหาเสน่ห์ และทางค้าขาย เป็นของดีมีพุทธคุณที่น่าหามาติดตัวไว้สักองค์ตรับ.
พระกลีบบัว ปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ องค์นี้เป็นเนื้อดินเผา ในเนื้อจะเห็นผง และมวลสารชัดเจน เนื้อมีความแห้งสมอายุครับ....สนใจก็ลองหาเก็บสะสม หรือขึ้นคอดู...แล้วจะรู้เอง?
ข้างและด้านก้น ด้านก้นเป็นด้านองค์พระหงายขึ้น จะเห็นว่าองค์พระเป็นสองชั้น โดยชั้นบนเป็นกรอบองค์พระ ชั้นล่า่งเป็นปีก เป็นขอบพิมพ์อีกหนึ่งชั้น ต้องจำให้ดีครับ เพราะว่ามีของคล้ายๆของปลัดเกลี้ยงเยอะ....ผมใช้คำว่าคล้ายๆนะครับ!!!
พระกลีบบัว เนื้อดินเผา พระปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ
พระกลีบบัว องค์จิ๋ว เนื้อผง ของท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เป็นพระกลีบบัวของท่านองค์แรกที่ผมได้สะสม นำมาจากกระป๋องพระในบ้าน เมื่อประมาณปี 2520.
พระกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เนื้องผง.
พระปลัดเกลี้ยง พระเมตตา ค้าขาย แขวนให้เป็นเสน่ห์ เป็นที่รักใคร่แก่ผู้พบเห็น แขวนพระของท่านการพูดจาต้องไพเราะอ่อนหวาน มีสัมมาคาระวะ จึงจะดี
..พระกลีบบัว เนื้อผงพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ องค์นี้ก็จัดว่าเกือบสมบรูณ์ ถ้าขอบพิมพ์ชั้นล่างไม่แหว่งออกไป แต่ละองค์ต้องให้มีติเล็กติน้อยจนได้ พระของท่านไม่สวยมากกว่าสวย องค์นี้มองจากภาพถ่าย ท่านจะเห็นเศษตะไบพระกริ่ง ซึ่งเป็นเศษทองเหลืองชิ้นเล็ก ฝังตัวอยู่ในเนื้อพระทั่วไปทั้งด้านหน้าและด้านหลัง..
..ผมพยายามถ่ายภาพมาให้ท่านพิจารณา หลายแง่หลายมุมหน่อย พระองค์เล็กการถ่ายรูปด้วยมือ ไม่มีขาตั้งค่อนข้างจะลำบาก ถ้าภาพไหนไม่ชัดต้องขออภัย พระกลีบบัวของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง ณ.ปัจจุบันผู้คนเริ่มรู้จักเยอะขึ้น การแยกแยะก็ง่ายขึ้น เพราะข้อมูลมีเยอะ การที่จะมาหลอกตู่เอาพระอาจารย์อื่นมาโมเมเป็นพระปลัดเกลี้ยงนั้นทำไม่ได้แล้ว วันนี้พระกลีบบัว ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง หรือพระปลัดเกลี้ยงจึงได้รับความนิยมจากนักเล่น นักสะสมค่อนข้างดีทีเดียว..
..ถ้าคิดจะสะสม ต้องเป็นพิมพ์แบบนี้เท่านั้น ถ้าผิดจากแบบนี้ เป็นของที่อื่น ไม่ใช่ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยงแน่นอน..
.. พระกลีบบัว เนื้อดินเผา พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เนื้อดินเผา มีทั้งดินเผาผสมผง และดินเผาล้วนๆ เนื้อดินเผาผสมผงอยู่ด้านบน ส่วนองค์นี้เป็นเนื้อดินเผาล้วน เนื้อดินเป็นดินละเอียด ที่น่าจะมีการกรองมาแล้ว เนื้อดินนี่ผมมีข้อมูลน้อยจัง ถ้าใครมีช่วยลงมาเป็นข้อมูลและเป็นวิทยาทานหน่อยนะครับ..
..ท่านดูเนื้อด้านหลังนะครับ ดินจะละเอียดมาก ด้านพิมพ์ทรงจะเล็กกว่าเนื้อผงเล็กน้อย ถ้าไม่เล็กกว่าจากการถอดพิมพ์ ก็น่าจะเล็กกว่าจากการเผาไฟแล้วเนื้อดินหดตัว พิมพ์จึงเล็กกว่าเนื้อผงเล็กน้อย..
..สำหรับท่านที่มีข้อมูลดีๆ มีสิ่งละอันพันละน้อบ หรือมีเรื่องอะไรอยากคุย อยากถามถ้ารู้บอกเลย ถ้าไม่รู้จะพยายามหาข้อมูลมาให้ เชิญเลยครับ ถือซะว่าเรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบบแชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน เข้ามาเยอะๆเราจะได้มีคำว่า ยินดีที่ได้รู้จักครับ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..
..จัดว่าสวย ถ้าด้านล่าง ด้านบนไม่บิ่น..
...พระผงพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เป็นพระองค์จิ๋ว พุทธคุณก็แจ๋ว ใช้แล้วก็ลองสังเกตดูว่าเป็นเช่นไร?..
..พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เป็นพระขนาดเล็ก เด็กใช้ได้ ผู้ใหญ่ก็ใช้ดี ใครไม่มี ลองหามาใช้ดู..
พระผงพิมพ์กลีบบัวของพระปลัดเกลี้ยง สร้างตั้งแต่ปี ๒๔๗...กว่า จัดเป็นพระโบร่ำโบราณ ที่การสร้างก็เพื่อสืบทอดพระศาสนา ไม่ได้สร้างเพื่อการซื้อขาย ใครมาขอก็แจกกันฟรีๆ เพราะเหตุนี้จึงมั่นใจได้เต็มร้อยเลยว่าพระนี้ต้องดี พึ่งพาพุทธคุณได้อย่างไม่ต้องสงสัย การสร้างก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง สามารถที่จะดมดูได้ว่ามีแต่กลิ่นดีๆ เพราะสมัยเมื่อท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยงท่านสร้าง ยังไม่มีผลประโยชน์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเช่นสมัยนี้ ผู้คนยังเข้าวัดทำบุญกันเต็มศาลาในทุกวันพระและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คนยังเกรงกลัวต่อบาป จะทำบาปยังมีความละอายแก่ใจ ผิดกับสมัยนี้ คนเข้าวัดกันหร๋อมแหร๋ม ไปเยอะเอาแถวเธคแถวผับ บ่อนการพนัน และ ในคุก เพราะอะไร เพราะคนห่างไกลวัด ห่างไกลพระ โลกยิ่งเจริญ แต่จิตใจคนกลับแย่ลง นอกเรื่องอีกแล้ว เอาเป็นว่าพระผงพิมพ์กลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง ท่านใดจะเก็บก็เก็บได้เลยเพราะตอนนี้เท่าที่เห็นยังไม่มีของปลอม มีแต่ของที่มีพิมพ์คล้ายกันที่ไม่ทราบวัด ที่สามารถแยกแยะออกได้อย่างชัดเจน แต่ต่อไปถ้ามีการนิยมสะสมกันมากขึ้น ของมีเท่าเดิม แต่มีคนต้องการมาก ราคาก็ต้องสูงขึ้น เมื่อราคาสูงขึ้น ของปลอมย่อมจะทำออกมาบริการท่านแน่นอน เดี๋ยวนี้แม้ของหลักร้อยยังมีคนทำปลอม ก็ขนาดวัดออกของวันนี้ พรุ่งนี้ของปลอมยังออกมาขายแข่งกับทางวัดเลย เอากะมันซิครับ เห็นไหมครับมันเกรงกลัวบาปเกรงกลัวนรกกันที่ไหน?
...ประตูวัดเปิดตลอดยี่สิบสี่ แต่ไม่มีผู้เข้่าเราสงสัย ประตูคุกปิดแน่นหนากว่าแห่งใด แต่ไฉนคนแย่งเข้าทั้งเช้าเย็น...
..พระกลีบบัวพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เนื้อดินผสมผง ท่านจะเห็นผงในเนื้อได้อย่างชัดเจน พิมพ์ทรงถูกต้อง เนื้อและความเก่าก็มีความแห้งความเก่า ได้อายุกับเนื้อของพระ จึงฟันธงว่าชัวร์ไม่มั่วนิ่มแน่นอนครับ.!
...พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง เป็นพระที่มีหลายวรรณะ มีหลากหลายสี สีไหนไม่สำคัญ สำคัญที่พิพมพ์ทรงถูกต้อง เนื้อหาเก่าเข้ากับยุคก็ใช้ได้ และส่วนมากก็จะบิ่นปลายบนเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะส่วนปลายเป็นส่วนที่เล็ก จึงเปราะบางกว่าส่วนอื่น และส่วนก้นด้านล่างที่เป็นส่วนโค้งจะกระเทาะ บิ่น แตก เสียเป็นส่วนใหญ่ การเก็บ การใช้หรือใส่ตลับท่านต้องระวังพลาดพลั้งจะเสียของรักโดยไม่น่าเสีย การเลี่ยมพลาสติกอีกอย่าง พระเนื้อผงท่านอย่าเลี่ยมพลาสติกเลยครับผมเห็นมาเยอะแล้ว เวลาเลี่ยมตอนแรกๆก็ไม่เป็นไร แต่พอนานเข้าพระแตกเองหรือร้าวเองอยู่ในกรอบ เพราะตอนช่างเลี่ยมพระนำพระเข้าอัดพลาสติกต้องนำพลาสติกมาลนไฟก่อนพอพลาสติกอ่อนจึงอัดลงเข้ากับพระ พลาสติกเมื่อตอนร้อนก็อ่อนตัว พออยู่ในกรอบนานไปพลาสติกก็แข็งบีบรัดพระอยู่แบบนั้นหลายปีเข้ามาดูอีกทีกลายเป็นพระหัก แตกร้าวไปหมด น่าเสียดายผมจึงไม่นิยมนำพระผงเข้าเลี่ยมด้วยพลาสติก ถ้าเป็นเนื้อโลหะไม่เป็นไร แต่เสียตรงที่ถ้าช่างใส่น้ำยามากไปเข้าไปเยี้มอยู่ในพื้นเหรียญก็เสร็จเหมือนกัน พอเอาออกมาขาย หรือเปลี่ยนจะเข้าตลับ เงิน นาก ทอง ผิวพระก็กระดำกระด่างเสียราคาไปแล้ว หรือเก็บไว้ใช้เองพระก็เสียผิวไปแล้ว มองดูครั้งใดก็ช้ำใจเมื่อนั้น ก็โธ่พระราคาถูกๆที่ไหน หลวงปู่ทิมเสมาแปดรอบ ผิวแดงแป๊ด กลับเป็นผิวกระดำกระด่างไปซะฉิบ สมน้ำหน้ามัน...
...ภาพประกอบเรื่องที่เขียน ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้เขียนเล่นสนุกๆเท่านั้น ด้านหน้าท่านจะเห็นว่าด้านบนตรงขอบเหรียญจะด่างไปทั้งแถบ ส่วนด้านหลัง เป็นด้านบนที่ท่านเห็นครับ ผมถึงบอกว่าไม่จำเป็นอย่าเลี่ยมครับพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นพระผงหรือ เนื้อโลหะ ท่านลองชมเองเถอะคุ้มกันไหม?...
..พระกลีบบัวปลัดเกลี้ยง บิ่นหรือแตก ด้านบน ด้านที่เล็กและบอบบางเบา ที่ท่านต้องระวังหน่อยในการ หยิบ จับ ใส่ เพราะบางท่าน หรือแทบทุกบ้านที่ไม่ค่อยสนใจพระ จะใส่รวมในภาชนะ หรือห่อรวมๆกับพระอื่นๆไว้ ผลสุดท้ายก็เป็นแบบนี้ครับ แต่ถ้าคนที่เล่นพระสะสมพระจะไม่ทำอย่างที่กล่าวมาแน่ จะต้องใส่ช่อง ใส่กล่องไว้เป็นการส่วนพระองค์ เป็นที่เป็นทาง ช่องใครช่องมัน เพื่อไม่ให้กระทบ กระแทก กันแตกหัก ใช่ไหมครับ?
...ภาพบนพระกลีบบัวสององค์แต่ก่อนเป็นพระของผมที่ขายไป แต่เจ้าของใหม่นำไปล้างทั้งสององค์จนสะอาด แล้วนำมาลงขาย ผมจำได้จึงคิดจะซื้อกลับโทรไปแล้ว แต่เป็นว่าพระสององค์นี้เป็นพระนำไปฝากขาย ผมก็เลยเลิกล้มความคิดที่จะซื้อ เรื่องราคานั้นไม่เป็นปัญหา แต่ที่มีปํญหาไม่ซื้อกลับเพราะพระเสียผิว เสียสภาพเดิมๆของพระ อย่างความเก่าที่น่าจะเก่าสมอายุกลับเป็นพระล้างซะขาวจั๊วแบบที่เห็น ถ้าท่านใดมีพระอย่าได้ไปล้างไปทำแบบนี้เลยครับ ถ้าท่านทำไว้ใช้ของท่านคนเดียวไม่เป็นไร ถ้าทำไว้ขาย ขายให้คนไม่รู้หรือไม่ค่อยเป็นพระแต่อยากได้ไม่เป็นไร แต่ถ้าไปขายให้คนรู้หรือคนที่เล่นเป็น จะเสียราคาทันที ถึงท่านจะขายได้ก็ขายได้ไม่เท่าเดิมถ้าเขารู้ว่าพระล้างมา ส่วนภาพล่างนั้นเป็นภาพเปรียบเทียบเมื่อครั้งพระอยู่กับผม ส่วนอีกองค์หนึ่งนั้นเป็นองค์ที่จัดว่าสวยสมบูรณ์ด้วย ภาพเก่าของผมหาไม่เจอสงสัยจะไม่ได้เก็บไว้ จึงมีมาเปรียบเทียบให้ชมองค์เดียวครับ...
ภาพใกล้ๆเทียบเคียง ล้างกับไม่ล้าง
ด้าหลัง ล้าง กับ ไม่ล้าง
ส่วนอีกองค์ที่หาภาพไม่เจอขอใช้ภาพนี้เทียบเคียงแทนก็แล้วกันเพราะน่าจะมีสภาพใกล้เคียงกัน ว่าล้างกับไม่ล้าง อย่างไหนที่นักสะสมเขาทำและอย่างไหนที่นักสะสมเขาไม่ทำ?
ผมเองก็เบลอครับ ความจริงองค์บนองค์นี้ กับองค์นี้เป็นองค์เดียวกันครับ ล้างซะเกือบหมดสภาพเดิม ผมก็เลยเบลอ
ท่านดูเอาเองนะครับ กับพระสภาพเดิมกับพระที่นำไปล้างผิวน่าจะใช้แปรงถูผิวด้วยถึงได้ขาวขนาดนี้
...คราวนี้ถูกองค์แน่ครับ ระหว่าง ไม่ล้าง กับ ล้างสะอาด...
...ภาพเปรียบเทียบ ให้เห็นว่า สององค์ ซ้าย กับ หนึ่งองค์ขวา คือพระปัญหา ที่ยังหาวัดไม่เจอ ผมไม่ได้ว่าเป็นพระเก๊นะครับ แต่พระสองพิมพ์นี้มาคล้ายกับของพระของปลัดเกลี้ยงที่สามารถแยกแยะออกได้ไม่ยาก...
...พระผงกลีบบัวพระครูใบฎีกาเกลี้ยง เนื้อผง เนื้อดินผสมผง และเนื้อดินธรรมดา เรื่องราคา เนื้อผงราคาจะแพงกว่าเนื้อดินครับ...
..สององค์นี้เป็นพิมพ์ของท่านปลัดเกลี้ยง ท่านสร้างไว้หลายพิมพ์ แต่ไม่ค่อยมีใครค้นคว้ามาเผยแพร่ จึงทำให้ของดีๆต้องเป็นที่ไม่รู้จัก เล่นทิ้งเล่นขว้าง แบบไม่รู้จักก็เขี่ยออกเขี่ยทิ้งไปเสียก็ไม่ใช่น้อย น่าเสียดายพระดีๆไหมครับ......ถ้าบังเอิญท่านไปพบที่ใด หรือมีอยู่แล้วในกล่องเก็บพระ อย่าเก็บไว้เฉยๆนำมาเผยแพร่และโชว์อวดกันได้เลยนะครับ...
...ค้นมาจากตำราเล่มเก่าๆ พระพิมพ์ของปลัดเกลี้ยง อีกสองพิมพ์ พระพิมพ์ของท่านที่นำมาแนะนำนี้ ไม่ค่อยเห็นมีแพร่หลายเหมือนพิมพ์พระกลีบบัว ท่านสร้างไว้ไม่ใช่น้อย แบบแกะพิมพ์ขึ้นมาเองบ้าง ถอดพิมพ์พระวัดท้ายตลาดและพระกรุพระเก่าบ้าง แต่คนไม่ค่อยรู้จัก ขาดการบันทึกเป็นหลักฐาน ของดีๆจึงอันตรธานหายไปสิ้น...
กลีบบัว เนื้อดิน คมชัดลึก สวยๆถูกพิมพ์ มีผงป้ายที่ด้านหลังเล็กน้อยครับ
...พระปลัดเกลี้ยง อีกสองพิมพ์ครับ จากหนังสือเก่าเก็บที่บ้าน...
...นางกวักเนื้อผง เนื้อดินก็มี ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ ที่ผมเพิ่งปิดมาจากคุณเตโชชยากร ในเวปนี้ สภาพนี้ก็จัดว่าสวยแล้ว สำหรับพิมพ์นางกวักของท่านปลัดเกลี้ยง เนื้อหาจัดตามแบบฉบับของพระผงรุ่นเก่าๆของวัดสุทัศน์ฯ จัดเป็นของดีที่หายากอีกพิมพ์หนึ่งของท่าน ที่นานๆจะพบเห็น เพราะไม่ค่อยมีผู้ใดนำมาเปิดเผย เห็นแล้วก็ขอเก็บไว้เป็นต้นแบบ และนำพิมพ์นางกวักของท่านมาเปิดตัวให้ท่านที่ยังไม่เคยเห็นได้ชมกันแบบไม่หวงไว้คนเดียว และเดี๋ยวจะมีภาพถ่ายชัดๆมาให้ท่านชมอีกครั้ง...
...มาแล้วครับ มาตามสัญญา ที่บอกไว้ว่าจะนำภาพถ่ายมาให้ท่านชม ก็ลองชมในมุมอื่นๆบ้าง กับพระพิมพ์นางกวักของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ที่หาค่อนข้างยาก บางท่านอาจจะยังไม่เคยเห็นเลยก็ได้ ก็อย่างที่เขียนไว้ด้านบนนั่นแหละครับว่า เนื้อหาของพระวัดสุทัศน์ฯ เนื้อจะดูจัดดีมากๆเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นของท่านปลัดเกลี้ยง เจ้าคุณศรี(สนธิ์) พระครูมูล พิมพ์เกศบัวตูมและพิมพ์พระประธาน นางสามเหลี่ยม อาจารย์สุพจน์ หรือเจ้าคุณศรี(ประหยัด) ปี 2496 โดยเฉพาะ ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง เจ้าคุณศรี(สนธิ์) พระครูมูล พิมพ์เกศบัวตูม เป็นพระที่สร้างปีพ.ศ. ใกล้เคียงกันอยู่ที่ปี 2482- 2485 ความเก่าด้านเนื้อหาจึงเหมือนๆกัน น่าจะเป็นสูตรเดียวกันด้วย เพราะดูเนื้อของทั้งสามท่านนี้ ไม่แตกต่างกันเลย ถ้าท่านมีพระของทั้งสามท่านที่กล่าวมา ลองนำมาเปรียบเทียบกันดูซิครับ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ความเก่า เข้ากันแบบเป๊ะๆ และการปลุกเสกก็ผ่านพิธีดีๆเหมือนกันเป๊ะๆอีกเหมือนกัน เพราะอยู่วัดเดียวกัน จึงเป็นพระดีพระเก่าของวัดสุทัศน์ ที่น่าเก็ย น่าใช้น่าศึกษามิใช่น้อย ซึ่ง ณ.ปัจจุบันยังพอหาเก็บ หาใช้ หาศึกษาได้ โดยมีพระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูมของพระครูมูล นำโด่งเรื่องราคาไปแล้ว สวยๆเนื้อจัดๆก็มีคนสู้ราคา แต่จะเป็นราคาเท่าไหร่ ไม่ขอกล่าวถึง(กลัวแพง) พระวัดสุทัศน์ของท่านทั้งสามนี้ ด้วยความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าเป็นพระอนาคตโดยแท้ ที่เมื่อไหร่คนส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นของดีจริง เมื่อนั้นแสงที่เห็นเรืองๆจะลอยมารุ่งโรจน์อยู่ตรงหน้า...
...เชิญท่านชมภาพดูนะครับ...
...ลองเปรียบเทียบดูเนื้อหา ความเก่า มวลสารในเนื้อ ในพระของทั้งสามท่าน คือ พระชัยวัฒน์ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) พระครูมูล พิมพ์เกศบัวตูม และพระกลีบบัว ท่านพระครูใบฎีกาเกลี้ยง เนื้อหา ความเก่า คล้ายกันไหม? ถ้าภาพเล็กไป ให้ท่านขยายดูนะครับ...
.....พระชัยวัฒน์เจ้าคุณศรี(สนธิ์) เนื้อผงขาว พระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูม พระครูลมูล นางกวัก พระครูใบฎีกาเกลี้ยง ทั้งสามองค์นี้ พระของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง เก่าสุด เพราะท่านเริ่มสร้างพระของท่านประมาณปีพ.ศ. 2476-2484 ก็จัดว่าไล่เรี่ยกันในความเก่าทั้งสามองค์ และเนื้อยังจัดจ้าน เห็นกระจ่างแจ้ง แบบน่าจับจองมาเป็นเจ้าของทั้งสามองค์เช่นกัน เห็นแล้วสนใจไหมครับ???.....
...พระกลีบบัว พระปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ขอเรียกให้เต็มยศสักหน่อย ตั้งแต่เขียนมายังไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเขียนให้เต็มชื่อสักที ไม่ใช่อะไรหรอก กลัวเขียนผิดเขียนถูก เพราะชื่อวัดยาวอย่างกะขบวนรถไฟสายกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ มัวแต่เขียนข้างหน้าก็ลืมข้างหลังไปแล้ว องค์นี้เป็นเนื้อดินเผา ก้นเรียบไม่มีรอยเจาะเป็นรูใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทั้งสามองค์ที่นำมาให้ท่านชมในวันนี้ มวลสารในเนื้อเท่าที่เห็น ก็จะมีที่เห็นเป็นจุดดำๆซึ่งมีอยู่ทั่วไปก็เป็นเศษทองเหลือง ที่ตะไบตบแต่งพระกริ่งต่างๆ พระพุทธชินราชรุ่นอินโดจีน(ตามประวัติ) และมีจุดใหญ่ๆเล็กๆเท่าปลายเข็ม ที่ท่านเห็นในภาพเป็นสีขาวๆ แต่ในองค์จริงเป็นสีทอง อย่างกับเศษทองเหลืองเล็กๆ แต่มองอีกทีก็คล้ายพวกทรายทอง และมีองค์หนึ่งในสามองค์นี้ ตรงขอบข้างจะเห็นจุดใหญ่สีขาวคล้ายผงที่มีอยู่ในพระเครื่องเนื้อดินเผาของ หลวงพ่อพ่วง วัดกก และ พระเครื่องของหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน ซึ่งก็คงจะเป็นผงพุทธคุณที่ท่านทำเอง ผสมลงไปด้วย พร้อมกับมวลสารอื่น จึงเป็นพระที่น่าเก็บสะสม และน่าใช้ไม่แพ้เนื้อผงแต่อย่างใด เนื้อหา พิมพ์ทรงชัดเจน ความเก่าได้กับพ.ศ.ที่สร้าง องค์จิ๋วกระจี๊ดรี๊ดดีด้วย...
...องค์นี้ผิวเนื้อเหี่ยวย่นดีซะด้วย เป็นพระที่น่าใช้จริงๆ เมื่อเทียบกับพระใหม่ๆที่ออกมาปีสองปีนี้ ราคาที่ออก ยังแพงกว่าพระปลัดเกลี้ยง ที่ออกมาตั้งแต่ประมาณปี 247..กว่า ไม่รู้กี่เท่า...
...องค์นี้ที่ด้านหน้าเห็นเป็นจุดขาว และด้านหลังเป็นจุดเท่าปลายเข็มเล็กๆ องค์จริงเป็นจุดสีทอง แบบสีทองเหลือง แต่จะเป็นทองเหลือง หรือ ทรายทอง ยังไม่แน่ใจ และตรงขอบซ้ายมือเรา ที่เห็นขาวๆ ดูมุมนี้เห็นเป็นจุดเล็ก แต่องค์จริงเป็นจุดใหญ่กว่าในภาพ ที่ผมบอกว่า น่าจะเป็นผงพุทธคุณที่ท่านเขียนและลบของท่านเองผสมลงไปด้วย...
.....ภาพของท่านเจ้าของเดิม ซึ่งก็ชัดเจนดี ต้องขอขอบคุณ คุณน้องเชลซี ที่แบ่งปัน พระกลีบบัวเนื้อดิน ของพระปลัดเกลี้ยง ชุดนี้ทั้งชุด มาให้สะสม และศึกษา.....
เยี่ยม.........อ่านแล้วก็ได้ความรู้.........ใส่หัวสมอง.......อีกเพียบเลย........ครับ
ร่วมแจมด้วยองค์ ครับ ..พี่สินชัย ข้อมูลแน่นอนจริงๆ ยอดเยี่ยมมาก ได้ความรู้เยอะเลย ครับ
...พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง...วัดสุทัศน์ฯ เนื้อผงน้ำมัน พิมพ์ใช่ เนื้อให้ ความเก่าดี ตำหนิได้ มีหรือไม่ดี ครับ.! ก็ว่างเว้นกันไปซะหลายวัน ไม่ได้เข้ากระทู้นี้ ก็เนื่องมาจากไม่มีของ ท่านจะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้ พระของท่านปลัดเกลี้ยงหามีออกมาให้เห็นค่อนข้างยาก เท่าที่ผมดูอยู่นะครับ แต่ก่อนหายไปเดี๋ยวก็มา แต่เดี๋ยวนี้ทิ้งช่วงนานมาก นานจนเกือบลืม อย่างองค์นี้ผมต้องไปตามหาถึงกระทู้พระแท้ไม่รู้ที่ ไม่รู้วัดโน่น ถึงได้เจอ นำกลับมาที่กระทู้นี้ จากที่เคยหาได้ในกระทู้ประจำกลับหาไ่ม่ได้ คิดดูก็แล้วกัน หายากหรือหาง่าย องค์นี้เป็นเนื้อผงน้ำมันที่ไม่ค่อยพบเห็น ท่านอาจจะว่าไม่มีหรือไม่ยอมรับ แต่ก็ขอให้ยอมรับเถอะว่าพระของท่านมีหลายแบบ อย่างเนื้อดินเผาก็ยังมีตั้งสองแบบ คือแบบในเนื้อมองดูเป็นเนื้อดินล้วนๆ มองดูเนื้อแน่นแกร่งในเนื้อมองไม่เจอส่วนผสมอื่นๆ ส่วนเนื้อดินอีกแบบหนึ่ง เนื้อออกฟ่ามๆไม่แน่นแกร่ง และในเนื้อมีส่วนผสมของมวลสาร เช่นจุดขาวๆ เศษทองเหลือง หรือ พวกทรายเงินทรายทอง ในเนื้อผงก็ยังมีหลายสีหลายแบบ แต่พิมพ์ทรงเหมือนกัน เพราะพระของท่านน่าจะสร้างอยู่นานหลายปี จึงอาจจะแตกต่างกันไปบ้างในด้านพิมพ์ทรงและเนื้อหา อย่างพิมพ์ของท่าน มีแบบที่ถอดออกมาจากพิมพ์ต้นแบบก็มี แบบว่าจะเล็กว่าพิมพ์ต้นแบบเล็กน้อย แบบพระถอดพิมพ์ทั่วไป แต่ถ้าท่านไม่มั่นใจ ให้เล่นแต่พิมพ์ที่เป็นมาตรฐานก็ได้ ก็เขียนไปตามเท่าที่พบเห็นมาเท่านั้น ไม่ได้มาเขียนเพื่ออวดรู้หรือแสดงภูมิปัญญาอะไรทั้งสิ้น พบเห็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้น ไม่มีนอกมีใน เขียนด้วยความชอบ ที่มาจากใจล้วนๆ ที่พระของท่านพระครูเกลี้ยงเป็นของดี ในทางเมตตามหานิยม ซึ่งอย่างอื่นก็น่าจะมีพร้อม เพียงแต่ว่าพระของท่านหนักไปทางเมตตาค้าขาย ผมก็เคยแนะนำไปบ่อยๆว่า ท่านที่มีอาชีพทางพ่อค้าแม่ขาย หรือจะทำงานในห้างร้านของรัฐบาลหรือเอกชน ก็เหมาะ เพราะเป็นพระทางเมตตา ที่เข้ากันได้กับยุคสมัยปัจจุบัน ที่ศึกสงครามก็ไม่ค่อยมี ตีรันฟันแทงก็มีน้อย ถ้าไม่มึนเมาจนขาดสติ การใช้พระของท่านก็เหมือนทั่วๆไปคือจะทำสิ่งไหนก็ตั้งใจบอกกล่าว สิ่งแรกก็คือพระพทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ท่านจะทำอะไรก็อธิษฐานขอไปตามนั้น จะค้าขาย เข้าหาเจ้านาย หัวหน้า ทำะธุระกิจ ฯลฯ ท่านก็ต้องตั้งใจบอกกล่าวให้ดีๆ เหมือนเราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เราก็ต้องต่อสาย เสียบปลั๊กเสียก่อนไฟถึงจะติดจะมีแสงสว่าง จะเห็นผลในการใช้หรือไม่ให้ท่านสังเกตเอา แต่ที่สำคัญพระนั้น ต้องเป็นของท่านแท้ๆนะครับ และท่านจะต้องมีศรัทธาคือความเชื่อมั่นอยู่ในใจ ไม่ใช่ใช้ไปในทางไม่มีความเชื่อมั่น ลองดี เป็นเหมือนการลบหลู่ ซึ่งนั่นนอกจากจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว อาจจะไม่เป็นการดีกับตัวเราด้วย ซึ่งวัตถุมงคลซึ่งสำเร็จด้วยจิต การบูชาและการใช้ย่อมจะต้องใช้จิตเป็นสื่อเหมือนๆกันทุกชนิด เป็นของแท้เหมือนกัน แต่อาจจะใช้ได้ผลไม่เหมือนกัน ที่ไม่เหมือนกันก็น่าจะมีเหตุ มีปัจจัยมาจากสาเหตุที่กล่าวมานั่นแหละครับ ถ้าเห็นผลก็ทำบุญใส่บาตรบ้างเพื่อเป็นการต่อบุญหรือต่ออานิสงค์ที่เราได้รับให้มั่นคงยิ่งขึ้น...
...พระกลีบบัว...พระปลัดเกลี้ยง เนื้อดินเผา เปรียบเทียบกันในเนื้อลักษณะแกร่ง กับเนื้อฟ่ามๆ เป็นของแท้ทั้งคู่ โดยแตกต่างกันในเนื้อหา แต่พิมพ์ทรง เป็นพิมพ์เดียวกัน องค์เนื้อดินด้านบนสวยๆนั้น เป็นของคุณต๋อยแซมเบ้ ไม่ทราบว่าเปลี่ยนมือหรือยัง เนื้อแกร่งๆองค์ของคุณต๋อยแซมเบ้ ในเนื้อจะมองไม่เห็นมวลสารใดๆในเนื้อ แต่องค์ด้านล่างจะเห็นมวลสารชัดเจนครับ...
ดูกันที่ภาพใหญ่ๆดีกว่า...
...เนื้อผง และเนื้อดิน ที่แลดูแน่นแกร่งในเนื้อดิน และเนื้อผงก็เหมือนกัน บางองค์เนื้อจะแน่นแกร่ง บางองค์เนื้อจะแลดูเนียนตาไม่แน่นไม่แกร่ง กำลังพอดี ท่านดูภาพที่ผมลงมาเปรียบเทียบเอาก็แล้วกัน ว่ามีแตกต่างกันบ้าง แต่ก็เป็นของแท้ทั้งหมด อย่างไม่ต้องสงสัย ก็แล้วแต่จะชอบ ว่าตัวเราชอบแบบใด?...
... เนื้อแบบแน่นแกร่ง และเนื้อแบบฟ่ามๆ ที่อาจพบเจอได้เสมอๆ...
... และเนื้อแบบนี้น่าจะเป็นเนื้อที่เนียนตาน่ารักที่สุด(สำหรับผม) แล้วท่านล่ะ ชอบแบบไหน?...
...เห็นไหมครับ เหมือนกับที่ผมเคยเขียนไว้ในกระทู้ที่ 29 วันที่ 18/9/56 ไม่มีผิด แต่ผมไม่ทราบว่าองค์นี้แตกด้วยสาเหตุใด แต่รวมแล้ว พระเนื้อผง เนื้อว่าน เนื้อที่แตกหักได้ง่าย ไม่ควรเลี่ยมพลาสติกอย่างยิ่ง น่าเสียดายแทนเจ้าของจริงๆ...
...พระผงกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯที่ผมขายบ้าง ปิดเข้ามาบ้าง ซึ่งช่วงนี้ก็เห็นมีมาลงขายบ้าง แต่ก็เก็บไว้ได้องค์เดียว เพราะบางองค์ก็มีผู้อื่นเก็บไก่อน ก็ไม่ได้คิดจะกวาดหมดหรอก บางครั้งก็อยากดูว่ายังมีคนสนใจหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายท่านก็ถูกเก็บเข้ากรุไปตามระเบียบ ถ้าเป็นของแท้ๆ ไม่ใช่ของแกล้งแท้มาหรอกขายว่าแท้ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจยังจะมาขายเป็นปลัดเกลี้ยง ของถ้าเราซื้อผิดวัดผิดอาจารย์เข้ามาแล้ว ก็จงรับความจริงเถอะ อย่าดันทุรัง ไปแหกตาคนอื่นเลยว่าเป็นของปลัดเกลี้ยง อย่ามองคนดูว่าไม่รู้อะไร เพราะคนดูรู้มากกว่าคนขายเยอะแยะไป แบบคนดู เป็นครูคนขายได้ ผมจึงบอกว่าถ้าซื้อมาผิดก็จงยอมรับสภาพ การขายไม่ได้ หรือขาดทุนไปบ้างก็แล้วกัน อย่าหลอกคนดูและหลอกตัวเองเลย องค์นี้เป็นพระกลีบบัวของพระปลัดเกลี้ยงแน่นอน ที่ถูกต้องทั้งพิมพ์ทรงเนื้อหา พิมพ์ถูกเนื้อใช่ แล้วจะไม่ใช่ไปได้อย่างไร และคนขายใช่ว่าจะดูพระไม่เป็น เช่น คุณอ้นปากน้ำโผล่ เจ้าของพระองค์นี้ ซึ่งท่านก็เล่นพระอยู่หลายสาย นักเล่นทั้งหลายที่เล่นหลายสาย ต้องคุ้นชื่อเป็นอย่างดี องค์นี้ถึงมุมด้านขวามือเราจะติดไม่เต็มแบบกดพิมพ์ไม่แรงพอ เป็นแค่ขอบพระนิดหน่อย แต่องค์พระ พิมพ์พระก็ยังอยู่ดี เป็นองค์หนึ่งที่ดูง่ายครับ...
...องค์นี้ทำเป็นเล่นไป สวยนะครับ พระองค์นี้...
พระผงกลีบบัว พระปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมาวิหาร องค์นี้นิมนต์ท่านไว้แล้ว แต่ท่านยังเดินทางมาไม่ถึง คาดว่าพรุ่งนี้ถึง ในขณะที่ท่านยังมาไม่ถึง ก็ขอพูดถึงพระองค์นี้เท่าที่เห็นในภาพสักหน่อย ซึ่งพระองค์นี้ เนื้อหาแบบเนื้อแน่นแกร่ง ซึ่งก็พบได้บ่อย เพราะพระของท่าน เนื้อไม่ได้มีแบบเดียว เนื้อแน่น เนื้อฟ่าม เนื้อกำลังดี ไม่แน่นไม่ฟ่าม สีก็มีหลายสีหลายโซน พระกลีบบัวของพระปลัดเกลี้ยง เนื้อจะไม่มีลักษณะแบบตายตัว จะไปยึดถือว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบเดียวถึงจะใช่ แบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะเนื้อพระของท่านออกได้หลายหน้าแบบพระของพระครูมูลนั่นเลย อย่างองค์เนื้อผงน้ำมันผมก็ได้แนะนำไปแล้ว พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ ต้องใช่ครับ ถ้าเป็นในยุคปี๒๔๗ กว่า แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ แต่ไม่ใช่ อันนั้นผมเชื่อ ก็พวกเล่นทำเกินไว้เพียบ พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ทั้งนั้นเลย เวรกรรม... มนุษย์ เปโต...
...พระกลีบบัว พระปลัดเกลี้ยงองค์นี้ ต่างจากองค์บน องค์บนนั่นเนื้อแน่นแกร่ง ส่วนองค์ล่างคือองค์นี้ ผมถือว่าเป็นเนื้อปกติธรรมดาทั่วไป ที่พบประจำว่างั้นเถอะ ดังที่เคยเขียนว่าเนื้อพระของปลัดเกลี้ยงไม่ใช่เป็นเนื้อแบบเดียว แต่มีหลายแบบ ท่านคงจะสร้างไว้มากจริง ในพิมพ์นี้ สีก็มีหลายสี สีเทาสีเหลือง สีคล้ายๆกับสีฝุ่นสมัยก่อนที่นำมาผสมลงในเนื้อพระ มีทั้งรอยไม้เสียบด้านใใต้ฐานองค์พระ และไม่มีรอยไม้เสียบ ที่มีรอยไม้เสียบ องค์พระจะย่อมกว่าที่ไม่มีรอยไม้เสียบ เท่าที่พบจะเป็นแบบนั้น เป็นพระแท้ครับ แต่เหมือนท่านจะถอดพิมพ์ออกมาจากองค์ที่สร้างในคราวแรกๆ นี่เป็นเพียงแค่ความเห็นของผมนะครับ ไม่ถือเป็นข้อยุติ ดังที่ได้อ่านประวัติว่า ท่านเริ่มสร้างพระมาตั้งแต่ปี 247..กว่าท่านสร้างเรื่อยมา ตอนปั้นปลายที่ท่านมาอยู่ที่บ้านเกิดคือวัดยวด ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.อยุธยา ไม่ทราบว่าท่านได้สร้างพระขึ้นอีกหรือเปล่า ทราบแต่ว่าท่านได้นำมาจากกรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่น้อยองค์ ท่านสร้างอยู่หลายปี เนื้อหา ส่วนผสมก็อาจแตกต่างกันไปบ้างซึ่งถือเป็นเรื่องปกติครับ...
พระของท่านปลัดเกลี้ยง หรือ พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศนฯ เป็นพระยุคเก่าที่น่าสะสม น่าใช้ไม่น้อยครับ พระในยุคนี้ท่านไม่ต้องกลัวเสริม หรือทำเกิน อะไรทั้งสิ้น เพราะจิตใจของคนสมัยนั้น ยังมีหิริ และ โอตัปปะ มีความละอาย มีความเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งผิดกับสมัยนี้ ปี 2557 อย่างสิ้นเชิง...
..เป็นองค์เดียวกันกับภาพด้านบนและด้านล่าง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบด้านสีที่เป็นจริงที่ผมถ่าย องค์นี้ก็มีสีเข้มกว่าอยู่ดีครับ...
...เป็นพระดีที่ปลุกเสกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 247..กว่า พระเกจิยุคนั้นเก่งๆทั้งนั้น ที่ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)นิมนต์มาปลุกเสกพระกริ่ง ตามคำบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) จะจัดพิธีกันกี่ครั้ง พระนี้ก็ได้เข้าพิธีด้วยทุกครั้ง และพระนี้ก็ยังได้ผงวิเศษ(ขอเรียกเช่นนั้น)และมวลสารต่างๆที่เป็นมงคลอีกหลากหลายของท่านปลัดเกลี้ยงเข้าไปด้วย จึงเป็นพระที่น่าเก็บและน่าใช้จริงๆ เป็นของดีที่ผมแนะนำมานานแล้วครับ ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา...
...พระกลีบบัว ขนาดเล็ก เนื้อดินเผา ถ้าเทียบกับเนื้อผง น่าจะมีน้อยกว่า เพราะการพบเห็นในเนื้อดิน พบไม่ค่อยมากเหมือนเนื้อผง...ถ่ายแต่ด้านหน้าครับ ไม่มีด้านหลังให้ชม...
สวัสดีครับ ท่านผู้ชม ตั้งแต่วันที่ ๖ ดือน ๖ ครั้งที่แล้ว ที่ผมเข้ามา เป็นเวลาสองถึงสามเดือนที่ห่างหายไปจากกระทู้นี้ ที่ไม่ได้เข้ามาเพราะขาดพระที่จะนำมาเสนอ ด้วยว่าหาของไม่ค่อยจะได้ ใครมีก็ใช้ก็เก็บกันหมด ผมก็จึงไม่มีของเข้ามาทักทายผู้ชม วันนี้มีของเข้ามา จึงได้นำมาเข้ากระทู้ซะหน่อย เดี๋ยวของท่านจะเดินทางออกไปเสียหมด นี่ก็ได้ออกไปบ้างแล้ว บางองค์ได้มาก็ต้องรีบถ่ายรูปเพื่อไว้ลงเป็นข้อมูล ถ้าไม่ถ่ายไว้เราก็ไม่มีภาพของตัวเองไว้ลงเป็นข้อมูล จะไปใช้ภาพของเจ้าของเดิมหรือก็ตะขิดตะขวงใจ การหายใจถึงคนอื่นจะให้ขอยืมจมูก ก็ไม่เหมือนจมูกของเราเอง ซึ่งก็มีบ้างที่ยืมภาพเขามาขีดเขียน เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ซึ่งแต่ละท่านก็เข้าใจดี องค์นี้ก็เป็นอีกองค์หนึ่งที่ได้รับการแบ่งปันมาจากคุณอ้นปากน้ำโผล่ นักเล่นที่ซื้อขายพระมาตรฐานอีกท่านหนึ่งในเวบยูฯแห่งนี้ ก็เหมือนๆเดิมในพระปลัดเกลี้ยงที่พิมพ์ทรงต้องเป็นแบบนี้ เล็กๆ แต่ดีในสรรพคุณ เป็็นพระเนื้อผงขนาดจิ๋ยวที่เนื้อหาจัดจ้านแบบพระสมเด็จยุคเก่าทั่วไป ขนาดนักเล่นรุ่นเก่าๆยังตีเป็นหลวงปู่ภูก็ยังมี ด้านเนื้อหาของท่านน่าชม น่าดู น่าจ้อง น่ามองไม่ใช่ย่อย เรียกว่าไม่น้อยหน้าเนื้อผงของอาจารย์ใดในยุคนั้น ถ้าท่านมีท่านก็ลองพิจารณาดูก็ได้ ว่าจริงอย่างที่สินชัยพูดไปไหม?...
...ด้านข้างจะมองเห็นเป็นสองชั้นยกสูงในพิมพ์ทรง เรียกง่ายๆว่ามีสองชั้น...ดังในภาพที่ท่านทัศนา...
*** นี่ครับก้บส่วนมาก แต่ไม่ทุกองค์ ส่วนมากจะเป็นในลักษณะนี้ ถ้าพูดอย่างที่เห็นก็ต้องบอกว่า เป็นลักษณะที่ใช้เล็บ (แต่ไม่รู้ว่าเล็บนิ้วไหน) ใช้เล็บแซะ ใช้เล็บแงะ ใช้เล็บงัดองค์พระออกจากแม่พิมพ์ ท่านผู้ชมเห็นพ้องต้องกับผมไหมว่าเป็นเช่นนั้น์ ***
พระผงกลีบบัว
...พระผงพิมพ์กลีบบัว ขนาดจิ๋ว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง หรือพระปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เป็นพิมพ์ที่นิยมและรู้จักกันแพร่หลาย เนื่องจากใช้ดีในทางเมตตา ค้าขาย เป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น องค์ขนาดปลายนิ้วก้อย องค์นี้ด้านหลังจะเห็นมวลสารเยอะหรือการผสมแก่มวนสารดังที่ท่านมองเห็น บางองค์ก็เห็นประปราย บางองค์ก็มองไม่เห็นมวลสาร แล้วแต่มวลสารในเนื้อจะไม่เหมือนกันทุกองค์จะแตกต่างกันออกไป องค์นี้ก็ยังรักษาความจัดจ้านทางเนื้ออยู่เหมือนเดิม และเป็นพระติดรางวัลด้วย ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่ชอบซื้อพระติดรางวัล เพราะจะแพงกว่าปกติ แต่องค์นี้เจ้าของเปิดขายในราคาปกติ จึงซื้อด้วยเป็นพระดีและไม่ค่อยพบเจอ ส่วนใบประกาศผมจะไม่ขออวดนะครับ เพียงแต่ขอบอกว่าพระองค์นี้ติดที่สองมาในงานหนึ่ง เมื่อปี ๒๕๕๔ ครับ...
...มุมมองด้านข้าง...
...อีกมุมหนึ่งครับ...
...องค์นี้ก็เหมือนองค์ที่แล้ว ที่ก้นมีรอยเล็บหยิกหรือจิกลงที่่ด้านก้นเพื่อนำพระออกจากแม่พิมพ์...
~ เล็กพรกขี้หนู ~
> พระผงกลีบบัว ขนาดเล็ก ของพระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ นับเป็นพระเก่าอายุน่าจะได้ถึง ๘๐ ปี เนื้อหาจัดจ้าน เหมือนกับพระสมเด็จเก่าๆของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ หลวงพ่อพรหม วัดกัลญาณมิตรฯลฯ จึงเป็นพระที่น่าเสาะหามาใช้ หรือสะสมไว้ในกล่องของท่านจริงๆ พระยุคเก่าๆถ้าท่านไม่มั่นใจในของๆท่าน ท่านคงไม่สร้างออกมาแน่นอน เพราะถ้าสร้างออกมาแล้วไม่ดีจริง คนใช้ก็หมดความเชื่อถือ พระผงกลีบบัวของท่านปลัดเกลี้ยงก็เป็นที่กล่าวขานถึงในด้านเมตตา เพราะท่านสำเร็จวิชาการทำผงพุทธคุณทั้งห้าประการแบบเจนจบจริงๆ ตามแบบฉบับพระยุคเก่าๆทั่วไปครับ<
พระกลีบบัว เนื้อดินเผา...
ของพระครูใบฎีกาเกี้ยง วัดสุทัศน์ฯ ขนาดจะย่อมกว่าเนื้อผงเล็กน้อย ก็ขนาดเนื้อผงธรรมดาก็ว่าเล็กแล้ว แต่นี่เนื้อดินเผา พอเผาสุกแล้วความแห้งความหดของเนื้อพระที่หดลง ทำให้พระซึ่งมีขนาดเล็กอยู่แล้วกลับเล็กมากขึ้นไปอีก และท่านดูที่ด้านหลัง ด้านล่านะครับ ส่วนมากจะมีรอยเล็บติดอยู่กับเนื้อพระ คงจะจิกลงไปตอนนำพระออกจากแม่พิมพ์ ส่วนมากจะเป็นแบบนี้ ไม่ว่าเนื้อดิน หรือ เนื้อผง ส่วนมากนะครับ ไม่ทุกองค์...
พระกลีบบัว พระครูใบฎีกาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เนื่้อดินเผา หลังอูมนูน........
พระผงกลีบบัว เนื้อดินเผา
ปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ
พระกลีบบัว พระปลัดเกลี้ยง เนื้อผง
..พระปลัดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ เนื้อผงสีอมชมพู ซึ่งไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก มีสีฟ้าอ่อนๆ สีเทา เท่าที่เคยเห็น เป็นแบบคล้ายๆสีฝุ่นที่ใช้ในสมัยนั้น ที่ลงสีพิมพ์จะเล็กกว่าเล็กน้อย น่าจะเป็นพระที่สร้างปลายๆชีวิตท่าน เพราะท่านสร้างของท่านไปเรื่อยๆครับ...
พระกลับบัว เนื้อดินเผา
ปล้ดเกลี้ยง วัดสุทัศน์ฯ ที่มองอย่างไรก็น่าเก็บ น่าสะสม น่าใช้ทุกๆด้าน เพราะพระสมัยก่อนท่านเก่งจริง ทำอะไรแล้วเห็นผลจริง ของน่ะเป็นของจริง แต่คนใช้ ใช้เป็น ใช้ถูกหรือเปล่า ทุกวันนี้ คนแขวนพระไม่ขลัง เพราะตัวคนแขวนนั่นแหละทำให้พระหมดขลัง เหมือนการตอกตะปู ต้องใช้ฆ้อนตอก ท่านจะไปใช้ มีด ใช้ท่อนไม้ตอก ก็ไม่ถูกเรื่อง พระจะขลังหรือไม่ก็อยู่ที่เรา ว่าทำถูกเรื่องหรือเปล่า? ทำถูกเรื่อง ถ้าเป็นพระแท้ ท่านจะต้องได้เห็นอะไรแปลกๆบ้างเชื่อเถอะ!
แบบนี้ใช่ของพระปลัดเกลี้ยงไหมครับ